เทคนิคการสอนอย่างไร ให้นิสิตมีความสนใจในการเรียน

แก้ปัญหาอย่างไรเมื่อนิสิตเข้าห้องเรียนสายหรือเข้าเรียนไม่พร้อมกัน
1. มีการชี้แจงระเบียบ ข้อตกลง หรือกติการ่วมกันในคาบเรียนแรกของการเปิดภาคเรียน เช่น อนุญาตให้เข้าห้องช้าได้ไม่เกิน 15 นาที ถ้ามาสายหลังจากนั้นถือว่ามาเรียนสาย หากสาย 3 ครั้ง จะถือว่าขาดเรียน 1 ครั้ง นิสิตต้องเข้าเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด เป็นต้น อย่างไรก็ตามหากนิสิตมีเหตุสุดวิสัยจริงที่ไม่สามารถมาเรียนได้ แจ้งให้นิสิตทราบว่าสามารถส่งใบลาที่สมเหตุสมผลได้ ลากิจต้องส่งใบลาก่อนล่วงหน้า ลาป่วยให้นิสิตส่งใบลาในวันที่มาเรียนวันแรกหลังจากหายป่วย ซึ่งหากนิสิตส่งใบลาถือว่านิสิตไม่ได้ขาดเรียนในชั่วโมงดังกล่าวและแจ้งให้นิสิตทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมจากเพื่อนหรือถามอาจารย์
2. ทาความตกลงกับนิสิตว่า อาจารย์ผู้สอนให้เกียรติผู้เรียน ดังนั้นผู้เรียนก็ควรให้เกียรติผู้สอนด้วยเช่นกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างให้เกียรติซึ่งกันและกันก็ควรทาหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด กล่าวคือผู้สอน ต้องตั้งใจและทุ่มเทให้กับการสอน ผู้เรียนก็ต้องตั้งใจ เอาใจใส่ในการเรียน และเข้าเรียนอย่างสม่าเสมอ
3. จัดกิจกรรมที่ให้นิสิตได้ทาก่อนเริ่มบทเรียน ประมาณ 15 นาทีแรก เช่น แบบทดสอบก่อนเรียน (quiz) ซึ่งหากนิสิตมาสายนิสิตก็จะพลาดโอกาสในการทาแบบทดสอบก่อนเรียน ซึ่งทาให้อาจารย์สามารถตรวจเช็คนิสิตที่ไม่มาเรียนหรือมาสายได้ อีกทั้งมีการทาแบบทดสอบหลังเรียนด้วย เพื่อเช็คนิสิตว่าเข้าใจบทเรียนหรือไม่และเป็นการเช็คชื่อนิสิตด้วยว่ายังเรียนอยู่หรือหายไปจากต้นชั่วโมง

แก้ปัญหาอย่างไรเมื่อนิสิตไม่ตั้งใจเรียน นอนหลับ คุยเสียงดัง เล่นมือถือ Tablet เป็นต้น
1. เล่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่สอนบ้าง แต่เป็นเรื่องที่นิสิตให้ความสนใจ เช่น เรื่อง ความรัก การเรียนต่อในต่างประเทศ ทุนการศึกษาในต่างประเทศ การท่องเที่ยวในต่างประเทศ เป็นต้น เพื่อดึงดูดความสนใจของนิสิตให้กลับมาสนใจ แล้วค่อยกลับเข้าสู่เนื้อเรื่องที่เรียนต่อไป
2. พักให้นิสิตได้ไปเข้าห้องน้าหรือผ่อนคลายหลังจากเรียนไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง
3. หยุดการสอนชั่วขณะเพื่อให้นิสิตทราบว่าควรปรับปรุงประพฤติกรรมในห้องเรียน
4. เปิดโอกาสให้นิสิตได้ร่วมกิจกรรมในการแสดงความคิดเห็นและพยายามดึงความรู้ที่มีในตัวนิสิตมาใช้ให้เป็นประโยชน์

สร้างบรรยากาศในการเรียนอย่างไรให้ผู้เรียนได้ทั้งความรู้ และมีความสุขกับการเรียน
1. กระตุ้นตนเองให้มีความกระตือรือร้นในการสอน เข้าห้องเรียนก่อนนิสิตประมาณ 5 นาที ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใช้น้าเสียงที่น่าฟังและสุภาพ สนุกกับการสอนเพื่อให้นิสิตติดตาม ไม่ควรอ่านสไลด์ให้นิสิตฟัง มีการเตรียมเนื้อหาในการสอนมาเป็นอย่างดี มีสื่อการสอนที่น่าสนใจ เช่น เปิด Youtube หรืออุปกรณ์ประกอบที่ทาให้นิสิตเข้าใจบทเรียนง่ายขึ้นและพยายามสอดแทรกคุณธรรมที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจาวันให้สอดคล้องกับเรื่องที่เรียนอยู่เสมอ
2. สร้างบรรยากาศที่เสริมแรงผู้เรียนในเชิงบวก เช่น ชมเชยนิสิต ให้รางวัลนิสิตที่ทาคะแนนได้ดี ให้เพื่อนนิสิต ปรบมือให้นิสิต เป็นต้น รวมทั้ง ควรมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน เช่นการถาม-ตอบ การให้นิสิตแสดงความคิดเห็น
3. ผู้สอนต้องเตรียมการสอนทุกครั้ง อย่าแสวงหาความรู้เอาดาบหน้า ควรหลีกเลี่ยงการตอบนิสิตด้วยประโยคที่ว่า “แล้วจะมาบอกในชั่วโมงหน้า” หรือไม่ก็ทาเสียงดุๆว่า “ไปหาเองซะบ้างสิ” หรือการแสดงอารมณ์ไม่พอใจเมื่อนิสิตถาม เพราะจะทาให้นิสิตขาดความเชื่อถือและไม่อยากเข้ามาปรึกษาเวลามีปัญหา

การเตรียมสื่อการสอนใดที่ทาให้ผู้เรียนสนใจเรียนยิ่งขึ้น
1. อาจารย์ส่วนใหญ่ใช้สื่อการสอนเป็น Powerpoint ซึ่งก็เป็นสื่อการสอนที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะเพิ่มลูกเล่นอื่นๆให้นิสิตตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น เช่น เสียง ภาพเคลื่อนไหวหรือสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
2. สื่อที่น่าสนใจ คือตัวอย่างใน Youtube ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนได้เป็นอย่างดี
3. ควรเพิ่มเติมงานวิจัยใหม่ๆหรือข่าวสารที่ทันสมัยมาเล่าให้นิสิตฟังซึ่งจะช่วยเปิดโลกทัศน์ให้แก่นิสิต
4. มอบหมายงานให้นิสิตมานาเสนอในชั้นเรียนและหลังจากเลิกเรียน โดยมีการซักถามและตอบข้อสงสัย ผ่าน Social network ก็เป็นแนวทางที่รวดเร็วและเข้าถึงพฤติกรรมของนิสิต
5. นาการเรียนแบบ PBL (Problem Base Learning) มาใช้ในบางรายวิชา (เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง)


การวัดและประเมินผลการเรียนอย่างไรทาให้เกิดผลดีกับนิสิต
1. เมื่อนิสิตส่งแบบฝึกหัดหรืองานที่ได้รับมอบหมายแล้ว อาจารย์ควรรีบตรวจและแจ้งให้นิสิตทราบ อย่าเก็บเอาไว้เพราะจะทาให้งานคั่งค้างจนสะสมและทาไม่ทัน
2. ควรแจ้งคะแนนเก็บหรือคะแนนสอบกลางภาคให้นิสิตทราบทุกครั้งก่อนสอบปลายภาคเรียนหรือหลังจากการสอบกลางภาคภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนิสิตจะได้ตรวจสอบหรือทักท้วงได้ หากมีความสงสัย วิธีนี้ก็จะช่วยตรวจสอบการทางานของอาจารย์ให้มีความเป็นระเบียบมากขึ้นทางหนึ่ง
3. เปิดโอกาสให้นิสิตมีส่วนในการประเมินผลการเรียนด้วย อาจจะเป็นการประเมินตนเองหรือเพื่อนประเมินเพื่อนและนาผลที่ได้มาเปรียบเทียบกันว่าเป็นในแนวทางเดียวกันหรือไม่
4. ให้งานหรือแบบฝึกหัดท้ายเรื่องเพื่อทบทวน หรือให้นิสิตค้นคว้าหาข้อมูลก่อนเรียน หากเป็นไปได้ในรายวิชาที่มีการปฏิบัติการ ควรมีเวลาอย่างน้อย 20 นาที ในการทาความเข้าใจเพิ่มเติม (class discussion) กับปฏิบัติการที่เรียนไปในสัปดาห์ก่อน
5. มีการประเมินผลการใช้สื่อการสอน อาจใช้แบบสอบถามหรือข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามเป้าหมายที่วางไว

คลิกเพื่อดู>>>แผนการจัดการความรู้ประจาปี 2555 (1 มิถุนายน 2555 – 31 พฤษภาคม 2556) เรื่อง “เทคนิคการสอนอย่างไร ให้นิสิตมีความสนใจในการเรียน”